รู้จักแมลงหวี่ขาวใยเกลียว ภัยเงียบเกษตรกรต้องระวัง
รู้จักแมลงหวี่ขาวใยเกลียว ภัยเงียบเกษตรกรต้องระวัง
รู้จักแมลงหวี่ขาวใยเกลียว ภัยเงียบเกษตรกรต้องระวัง
แมลงหวี่ขาวใยเกลียว (Spiralling Whitefly) ชื่อวิทยาศาสตร์ Aleurodicus dispersus Russell
ในช่วงหน้าร้อนเกษตรกรอาจจะต้องพบเจอกับแมลงศัตรูพืชที่เข้าทำลายพืชหลากหลายชนิดโดยเฉพาะแมลงตัวเล็กที่แพร่ระบาดได้ง่าย หนึ่งในนั้นก็คงจะเป็น แมลงหวี่ขาวใยเกลียว ที่เป็นแมลงศัตรูพืชขนาดเล็ก ที่เข้าทำลายโดยการดูดกินน้ำเลี้ยงในพืช สามารถเข้าทำลายพืชได้ในทุกระยะการเจริญเติบโต มักอยู่รวมกับใต้ใบพืชเป็นกลุ่ม ปกคลุมไปด้วยฝุ่นและใยสีขาวมีลักษณะวนรอบกันเป็นวงกลม การเข้าทำลายของแมลงหวี่ขาวใยเกลียว สามารถส่งผลกระทบผลผลิตได้ทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ
รูปร่างลักษณะและวงจรชีวิต
ตัวเต็มวัย : มีสีเหลืองอ่อน มีปีก 2 คู่ มีผงหรือไขสีขาวปกคลุมบริเวณปีก ความยาวลำตัว 2 มิลลิเมตร โดยตัวเต็มวัยจะวางไข่เป็นรูปวงกลมบริเวณใต้ใบหรือบนใบพืช มีอายุประมาณ 30 วัน
ไข่ : จะมีระยะประมาณ 7-10 วัน เป็นวงกลมบนพื้นผิวของพืชแต่ละวงจะมีไข่ประมาณ 14-26 ฟอง
ตัวอ่อน : มี 4 ระยะ อายุประมาณ 30 วัน ตัวอ่อนระอยู่บนใบพืชไม่เคลื่อนไหว แบนราบไปกับผิวใบมีเส้นใยสีขาวพันปกคลุม
ดักแด้ : ระยะดักแด้อายุประมาณ 10 วัน ดักแด้จะอยู่บนผิวใบพืช อายุประมาณ 10 วัน ไม่ไขสีขาวห่อหุ้มและเส้นใยสีขาวพันปกคลุม
ลักษณะการเข้าทำลายของแมลงหวี่ขาวใยเกลียว
แมลงหวี่ขาวใยเกลียวทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยเป็นแมลงปากดูด จะอาศัยการดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบและยอดบริเวณใต้ใบพืช ทำให้ใบพืชเหลือง ม้วนหงิก ขอบใบม้วนลงด้านล่าง ต้นแคระแกร็น เหี่ยว เมื่อเกิดการระบาดหรือการเข้าทำลายเป็นจำนวนมากจะทำให้พืชตายได้ นอกจากนี้แมลงหวี่ขาวใยเกลียวยังเป็นแมลงพาหะนำเชื้อไวรัสสาเหตุของโรคใบด่างในพืชต่างๆ ได้ ทำที่จะทำให้ปริมาณผลผลิตและคุณภาพลดลง
พืชอาหารของแมลงหวี่ขาวใยเกลี่ยว สามารถเข้าทำลายได้ทุกระยะการเจริญเติบโตของพืช ทั้ง ดอก ใบ ยอด ผลอ่อน ชนิดพืชที่เข้าทำลายหลากหลาย เช่น ฝรั่ง พริก กระเจี๊ยบเขียว มะเขือ มะม่วง องุ่น น้อยหน่า มันสำปะหลัง พืชตระกูลกะหล่ำ ถั่วชนิดต่าง ๆ และฝ้าย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพืชอาหารของแมลงหวี่ขาวที่สามารถเข้าทำลายในพืชได้อีกมากกว่า 100 ชนิด
วิธีการป้องกันกำจัด
1.หมั่นสำรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเฝ้าดูการแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืชในแปลงปลูก
2. กรณีที่มีการเข้าทำลายน้อยให้ตัดบริเวณนั้นไปเผาทำลายทิ้ง กำจัดวัชพืชบริเวณรอบแปลงปลูกเพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของแมงหวี่ขาวใยเกลียว
3.กรณีมีการระบาดระดับเริ่มต้น แนะนำให้ใช้ชีวภัณฑ์บิวเวอร์เรีย (บิว- เวอร์) อัตรา 100 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ร่วมกับ สารจับใบ เบนดิกซ์ 3-5 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อเริ่มพบแมลง 5 ตัวต่อใบ ฉีดพ่นทุก ๆ 3 วัน ติดต่อกัน 2-3 ครั้ง
4.หากพบการระบาดของแมลงหวี่ขาวใยเกลียวจำนวนมาก แนะนำให้ใช้สารกำจัดแมลง
ฟิโพรนิล 5 % SC อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
บูโพรเฟซิน 40% SC อัตรา 15 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร
ร่วมกับ ชีวภัณฑ์บิวเวอร์เรีย (บิว- เวอร์) อัตรา 100 กรัม และ สารจับใบ เบนดิกซ์ 3-5 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
เน้นพ่นบริเวณใต้ใบที่มีตัวแมลงหวี่ขาวใยเกลียวอยู่ การใช้สารเคมีและชีวภัณฑ์ร่วมกันจะช่วยลดความต้านทานของแมลงต่อสารกำจัดแมลง
ข้อแนะนำในการใช้ชีวภัณฑ์
ก่อนฉีดพ่นสารแนะนำให้เพิ่มความชื้นในแปลง ให้มีความชื้นมากกว่า 60%ขึ้นไป ฉีดพ่นช่วงเวลาเย็น และหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีแดดจัด ควรฉีดพ่นให้โดนตัวแมลงโดยตรง
ที่มา : สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร
เรียบเรียงโดย : บุษราคัม ธีระกุลพิศุทธิ์
18 มีนาคม 2568
ผู้ชม 223 ครั้ง