เชื้อราบิวเวอร์เรีย เข้าทำลายแมลงศัตรูพืชได้อย่างไร ?

เชื้อราบิวเวอร์เรีย เข้าทำลายแมลงศัตรูพืชได้อย่างไร ? 

เชื้อราบิวเวอร์เรีย มีลักษณะสีขาวหรือสีครีมซีด เป็นเชื้อราก่อโรคกับแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด เช่น แมลงหวี่ขาว เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยจั้กจั่น เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล หนอนห่อใบข้าว หนอนผีเสื้อศัตรูพืชต่างๆ  และไรแดง  เป็นต้น

การเข้าทำลายแมลงของเชื้อราบิวเวอร์เรีย

1. เมื่อสปอร์ของเชื้อราสัมผัสลำตัว หรือผนังลำตัวของแมลง โดยมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมคือ มีความชื้นสัมพัทธ์ไม่น้อยกว่า 60% อุณหภูมิ 20-27 องศาเซลเซียส สปอร์ของเชื้อราจะแทงเข้าสู่ลำตัวของแมลงไม่ว่าจะเป็นบริเวณผนังลำตัว ข้อต่อของแมลงเป็นบริเวณที่มีผนังบาง หรืออาจจะเป็นรูหายใจ

2. หลังจากที่สปอร์แทงเข้าไปภายในลำตัวแมลงแล้ว หลังจากนั้นจะเข้าสู่เนื้อเยื่อของแมลงและอาศัยน้ำย่อยต่างๆ ในลำตัวแมลงในการเจริญเติบโตและปล่อยเอนไซม์ที่เป็นพิษต่อแมลงที่จะทำให้แมลงตายได้ภายใน 5-7 วัน

3. เมื่อแมลงตายแล้วในสภาพแวดล้อมที่มีความเหมาะสม เชื้อราจะพัฒนาเส้นใยแล้วแทงออกมานอกตัวแมลงเพื่อทำการขยายพันธุ์ในธรรมชาติต่อไป

ลักษณะของแมลงที่โดนเชื้อราบิวเวอร์เข้าทำลาย

1. แมลงที่เชื้อราบิวเวอร์เรียเข้าทำลาย จะมีลักษณะ เบื่ออาการ กินอาหารน้อยลง อ่อนแอ ไม่เคลื่อนไหว เป็นอัมพาต

2. ผนังลำตัวของแมลงอาจจะมีจุดสีดำปรากฎเพราะเป็นจุดที่โดนเชื้อราเข้าทำลาย

3. เมื่อแมลงตายจะมีเส้นใยหรือผงสีขาวปกคลุมตัว

วิธีการใช้เชื้อราบิวเวอร์เรีย

1. พ่นเชื้อสัมผัสตัวแมลงโดยตรงเปอร์เซ็นต์การเข้าทำลายของเชื้อราจะสูงขึ้น นอกจากนี้เมื่อโดนตัวของแมลงตัวหนึ่งแล้ว แมลงตัวนั้นจะสามารถเป็นพาหะของเชื้อเพื่อไปสู่แมลงตัวอื่นได้ จากการสัมผัสกันของแมลง

2. พ่นในเวลาที่แมลงออกหากิน แมลงศัตรูพืชบางชนิดหากินเวลาเย็นหรือกลางคืน

3. พ่นเวลาเย็น ที่มีแดดอ่อนๆเพื่ออุณหภูมิที่เหมาะสมในการเข้าทำลายของเชื้อรา

4. ก่อนพ่นควรทำการรดน้ำในแปลงพืชก่อนประมาณ 1 ชม. เป็นการเพิ่มความชื้นในแปลงเพื่อประสิทธิภาพของเชื้อรา

5. สำรวจแมลงในแปลงและพ่นซ้ำทุก ๆ 3-5 วัน

ขอบคุณภาพจาก : กรมวิชาการเกษตร https://www.doa.go.th/sc/khonkaen/?p=3717