โรคแคงเกอร์ของพืชตระกูลส้ม (Canker)

โรคแคงเกอร์ของพืชตระกูลส้ม (Canker)
ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกพืชตระกูลมะนาว ส้ม และส้มโอ ควรระวังและป้องกันการเกิดโรคแคงเกอร์เนื่องจากมีฝนตกติดต่อกัน ทำให้สภาพอากาศชื้น เหมาะต่อการเกิด โรคแคงเกอร์ หรือที่ชาวสวนเรียกกันว่าโรคขี้กากส้ม เป็นโรคประจำตัวของพืชตระกูลส้ม บางสายพันธุ์ทนทานต่อโรคนี้ บางสายพันธุ์ก็อ่อนแอต่อโรคนี้และเป็นปัญหาส่งผลกระทบถึงผลผลิตสาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Xanthomonas campestris pv. Citri

ลักษณะอาการ
เชื้อแบคทีเรียสามารถเข้าทำลายได้ทุกส่วนของต้น ทั้งใบอ่อน กิ่ง และผลมะนาว ทำให้เกิดเป็นแผลตกสะเก็ดนูนสีน้ำตาลอ่อนถึงแก่ ทั้งใบ กิ่งและผล แผลจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เห็นเป็นวงซ้อนๆ กัน ต่อมาจะเหลืองแห้ง และหลุดล่วงไป อาการจะลุกลามติดกับใบอ่อนที่เกิดบาดแผลจากหนอนชอนใบเข้าทำลาย อาการเริ่มแรกที่พบเห็นเป็นจุดฉ่ำน้ำใสๆ เท่าหัวไม้ขีดไฟและจะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตรงกลางแผลจะตกสะเก็ดนูนขึ้น สีน้ำตาลอ่อน ส่วนอาการที่เกิดตามกิ่งอ่อนและผลจะพบแผลตกสะเก็ดนูนขึ้นสีน้ำตาลเช่นเดียวกัน แผลที่กิ่งและผลอาจจะแตกเป็นแผลทำให้เกิดยางไหล ลุกลามไปยังใบทำให้ใบหลุดร่วงและกิ่งแห้งตายไปในที่สุด

การแพร่กระจาย
แพร่กระจายได้ตามกระแสลม น้ำค้าง ฝน แมลง และมนุษย์ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเคลื่อนย้ายกิ่งที่มีโรคโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากแหล่งหนึ่งไปยังสถานที่อื่นๆ เป็นระยะทางไกลๆได้ ช่วงที่ระบาดจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน

วิธีการป้องกันกำจัด
1.ควรเลือกกิ่งพันธุ์จากแหล่งปลูกที่ไม่มีการระบาดของโรคนี้ หรือไม่นำกิ่งพันธุ์จากต้นที่เป็นโรคไปปลูกและใช้กิ่งพันธุ์ที่ไม่มีร่องรอยการติดเชื้อ
2.ตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบอาการโรคตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคเผาทำลาย สามารถลดการระบาดของโรคนี้ได้
3.ไม่นำเครื่องมือตัดแต่งที่ใช้กับต้นเป็นโรคไปใช้ต่อกับต้นปกติ และควรทำความสะอาดเครื่องมือก่อนนำไปใช้ใหม่ทุกครั้ง
4.กำจัดแมลงพวกหนอนชอนใบ โดยเฉพาะช่วงที่ส้ม มะนาว และมะกรูดแตกใบอ่อน เนื่องจากรอยทำลายของหนอนชอนใบเป็นช่องทางให้เชื้อสาเหตุโรคเข้าทำลายพืช ทำให้อาการโรคลุกลามอย่างรวดเร็ว
5.ควรตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง ช่วยลดการเกิดโรคได้
6.ฉีดพ่น เจน-แบค (แบคทีเรียบาซิลัส ซับทิลิส สายพันธุ์ บีเอ็ม-01) อัตรา 100 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ทุก 7-15 วัน เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรค แต่หากพบการระบาดให้ฉีดพ่นทุกๆ 5-7 วัน ควรฉีดพ่นช่วงเย็นหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ***หากเป็นการฉีดป้องกันควรฉีดตั้งแต่ตอนเริ่มแตกใบอ่อนและติดผลเล็ก***

 

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ, APHIS

 

ติดตามข้อมูลข่าวสาร สอบถามและปรึกษาปัญหาการปลูกพืชได้ที่

LINE id: @tabinnovation
โทร. 02-954-3120-6

 

================================================
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
LINE: http://bit.ly/TAB_LINE_OFFICIAL
Facebook: https://www.facebook.com/TABInno
YouTube Channel: http://bit.ly/LGH_YouTube
Lazada Official Store: https://www.lazada.co.th/shop/tab-innovation
================================================

 

25 ธันวาคม 2567

ผู้ชม 11 ครั้ง

Engine by shopup.com