ระวัง เพลี้ยไฟพริก ในมะม่วง
ระวัง เพลี้ยไฟพริก ในมะม่วง
ระวัง เพลี้ยไฟพริก ในมะม่วง
สภาพอากาศในช่วงนี้อากาศร้อน ลมกะโชกแรง ฝนตก และมีอากาศหนาวในเวลากลางคืน เตือนผู้ปลูกมะม่วง ในระยะออกดอก รับมือเพลี้ยไฟพริก
ตัวอ่อนและตัวเต็มวัย ใช้ปากเขี่ยเนื้อเยื่อ และดูดน้ำเลี้ยงจากเซลล์พืชบริเวณใบอ่อน ยอดอ่อน ตุ่มตาใบ ตุ่มตาดอก ช่อดอก การทำลายในระยะติดดอกจะทำให้ดอกร่วงไม่ติดผล หรือทำให้ติดผลน้อย ส่วนอาการที่ปรากฏบนยอดอ่อนจะทำให้ใบที่แตกใหม่ แคระแกร็น ขอบใบและปลายใบไหม้ ใบอาจร่วงตั้งแต่ยังเล็กๆ สำหรับใบที่ขนาดโตแล้ว
เพลี้ยไฟมักลงทำลายบริเวณใบอ่อนโดยเฉพาะหลังใบทำให้ใบม้วนงอ และปลายใบไหม้ ถ้าเป็นการทำลายที่ยอดจะรุนแรง ทำให้ยอดแห้งไม่แทงช่อใบ หรือช่อดอก
แนวทางป้องกัน/แก้ไข
1. เมื่อพืชเริ่มแตกใบอ่อน ยอดอ่อน ตุ่มตาใบ ตุ่มตาดอก ช่อดอก ใช้ เมตาไลต์ อัตรา 100 กรัมร่วมกับสารจับใบ มูฟ-เอ็กซ์ 3-5 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ก่อนพ่น ควรให้ความชื้นในแปลงประมาณ 60-65 เปอร์เซ็นต์ พ่นช่วงตอนเย็นอากาศไม่ร้อน พ่นทุก 5-7 วัน
2. ถ้าพบไม่มากให้ตัดส่วนที่แมลงระบาดไปเผาทิ้ง เพราะเพลี้ยไฟมักอยู่กันเป็นกลุ่มบริเวณส่วนยอดอ่อนของพืช
3. กรณีเพลี้ยไฟระบาดสามารถใช้ เมตาไลต์ เพื่อลดการดื้อยาของแมลง ร่วมกับการสารเคมี หรือใช้สลับกับการพ่นสารเคมีตามที่หน่วยงานราชการแนะนำ เช่น สไปนีโทแรม 12% SC, อะบาเมกติน 1.8% EC หรือ ไซแอนทรานิลิโพรล 10% OD เพื่อลดการดื้อ
***ในขณะที่ดอกบานควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีดังกล่าว เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อแมลงผสมเกสรได้
ขอบคุณข้อมูล :
สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร, สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สิงห์บุรี
25 ธันวาคม 2567
ผู้ชม 28 ครั้ง