ถาม-ตอบ มูฟ-เอ็กซ์ (MOVE-X)
ถาม-ตอบ มูฟ-เอ็กซ์ (MOVE-X)
1.ซิลิโคน Adjuvant คืออะไร
ซิลิโคน Adjuvant คือ สารเสริมประสิทธิภาพหรือสารจับใบชนิดออร์กาโนซิลิโคน ที่ใช้ในทางการเกษตรโดยทั่วไปแล้ว ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช สารกำจัดวัชพืช และสารเคมีทางการเกษตรอื่นๆ เป็นประเภทของสารเสริมประสิทธิภาพที่มีคุณสมบัติเป็นสารลดแรงตึงผิว ช่วยให้สารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอทั่วใบพืช ส่งผลให้สารเคมีต่างๆซึมซาบและออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น
2.ประโยชน์ของซิลิโคน Adjuvant
1. ช่วยให้กระจายตัวและแทรกซึมได้ดีขึ้น : ซิลิโคน Adjuvant ช่วยลดแรงตึงผิวของหยดน้ำยาสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชหรือปุ๋ย ทำให้กระจายตัวบนใบพืชได้ดีขึ้น แทรกซึมผ่านผิวใบไม้และลงสู่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เพิ่มการดูดซึม : ซิลิโคน Adjuvant ช่วยให้สารเคมีเกาะติดกับใบพืชได้นานขึ้น เพิ่มโอกาสให้พืชดูดซึมสารเคมีเข้าสู่ระบบ
3. ลดการสูญเสีย : ซิลิโคน Adjuvant ช่วยลดการระเหยของสารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืชหรือปุ๋ย ช่วยให้เกาะติดบนใบพืชได้นานขึ้น
4. เพิ่มประสิทธิภาพ : ซิลิโคน Adjuvant ช่วยให้สารเคมีกำจัดแมลงศัตรูพืช ปุ๋ย หรือสารเคมีทางการเกษตรอื่นๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้เกษตรกรใช้สารเคมีในปริมาณที่น้อยลง ประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3.ความแตกต่างระหว่างซิลิโคน Adjuvant กับ wetting agent
- ซิลิโคน Adjuvant มีประสิทธิภาพสูงในการลดแรงตึงผิวได้ดีกว่า wetting agent ยึดเกาะกับพื้นผิวของพืชได้ดี ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ และปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม
- wetting agent มีประสิทธิภาพปานกลางในการลดแรงตึงผิว ยึดเกาะกับพื้นผิวของพืชได้ปานกลาง ไม่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ แต่ปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม
4.เพลี้ยไฟ ที่ก่อความเสียหายกับพืชทั่วโลกมีกี่ชนิด และในประเทศไทยมีกี่ชนิด มีชนิดไหนที่สำคัญๆ
เพลี้ยไฟทั่วโลก
- มีเพลี้ยไฟมากกว่า 5,000 ชนิด ที่ได้รับการจำแนกแล้ว
- แต่ละชนิดมีความชอบพืชอาหารที่แตกต่างกัน
- เพลี้ยไฟบางชนิดสามารถทำลายพืชผลทางการเกษตรได้หลายชนิด
เพลี้ยไฟในประเทศไทย
- พบเพลี้ยไฟมากกว่า 100 ชนิด แต่มีเพียง 32 ชนิด ที่ได้รับการตั้งชื่อสามัญ
- เพลี้ยไฟที่สำคัญในประเทศไทย ได้แก่
เพลี้ยไฟพริก (Scirtothrips dorsalis) พบทำลายพริก มังคุด มะม่วง เงาะ ส้มโอ ส้มเขียว หวาน ลิ้นจี่ และลำไย
เพลี้ยไฟมันฝรั่ง เพลี้ยไฟหอม (Thrips tabaci Lindeman) พบทำลายมันฝรั่ง หอม กระเทียม พืชตะกูลกะหล่ำ
เพลี้ยไฟฝ้าย เพลี้ยไฟแตงกวา (Thrips palmi Karny) พบทำลายฝ้าย แตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือ และพืชอื่นๆ
เพลี้ยไฟดอกไม้ตะวันตก (Frankliniella occidentalis Pergande) พบทำลาย พืชดอกไม้หลายชนิด เช่น กุหลาบ เบญจมาศ กล้วยไม้ และพืชอื่นๆ
เพลี้ยไฟมะม่วง (Rhipiphorothrips cruentatus) พบทำลายมะม่วงหิมพานต์ มะม่วง ถั่วฝักยาว ถั่วเหลือง ข้าวโพด
เพลี้ยไฟข้าว (Stenchaetothrips biformis) พบทำลายข้าว
5.วงจรชีวิตเพลี้ยไฟ
วงจรชีวิตเพลี้ยไฟ
เพลี้ยไฟมีวงจรชีวิตที่สั้น ประกอบไปด้วย 4 ระยะ ดังนี้
1. ระยะไข่ เพศเมียวางไข่เดี่ยวๆ บนเนื้อเยื่อพืช ไข่มีสีขาวใส รูปร่างยาวรี ใช้เวลาฟักประมาณ 2-4 วัน
2. ระยะตัวอ่อน ตัวอ่อนมี 3 วัย มีสีเหลืองหรือสีน้ำตาล ตัวอ่อนวัย 1 มีขนาดเล็กเคลื่อนไหวช้า ตัวอ่อนวัย 2 และ 3 มีขนาดใหญ่ขึ้น เคลื่อนไหวเร็ว ใช้เวลาประมาณ 6-10 วัน
3. ระยะดักแด้ ตัวอ่อนวัย 3 เข้าสู่ระยะดักแด้ มีสีเหลืองเข้ม ไม่เคลื่อนไหว ไม่กินอาหารใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน
4. ระยะตัวเต็มวัย ตัวเต็มวัยมีสีเหลืองหรือสีน้ำตาล ปีกมี 2 คู่ ตัวเมียมีอายุขัยประมาณ 20-30 วัน ตัวผู้มีอายุขัยประมาณ 10-15 วัน ตัวเต็มวัยสามารถสืบพันธุ์ได้ทันที
ระยะเวลาทั้งหมดของวงจรชีวิตเพลี้ยไฟใช้เวลาประมาณ 14-23 วัน
6.ลักษณะอาการเมื่อพืชโดนเพลี้ยไฟเข้าทำลาย
เพลี้ยไฟเป็นแมลงศัตรูพืชที่สำคัญ สามารถทำลายพืชผลทางการเกษตรได้หลายชนิด โดยเพลี้ยไฟจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ส่งผลให้พืชแสดงอาการดังต่อไปนี้
ใบ:
ใบมีสีซีด เหลือง หรือขาว
ใบมีจุดสีน้ำตาลหรือสีดำ
ใบหงิกงอ ขอบใบม้วนเข้าหาข้างใน
ใบแห้งและร่วง
ดอก:
ดอกมีสีซีดหรือขาว
ดอกมีจุดสีน้ำตาลหรือสีดำ
ดอกแห้งและร่วง
ผล:
ผลมีสีซีด เหลือง หรือขาว
ผลมีจุดสีน้ำตาลหรือสีดำ
ผลมีรูปร่างผิดปกติ
ผลแห้งและร่วง
ลำต้น:
ลำต้นมีสีซีด เหลือง หรือขาว
ลำต้นมีจุดสีน้ำตาลหรือสีดำ
ลำต้นแคระแกร็น
7.วิธีการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ
1. ติดกับดักกาวเหนียวสีเหลืองอย่างน้อย 80 จุดต่อไร่ เพื่อลดตัวเต็มวัยที่จะมาวางไข่ รวมทั้งแมลงบินชนิดอื่น เช่น เพลี้ยไฟ
2. ตัดใบที่มีการระบาดไปเผาทำลาย
3. การใช้สารกลุ่มน้ำมันไวต์ออย ปิโตรเลียมออย พ่นทางใบให้ถูกตัวเต็มวัยและตัวอ่อนด้านใต้ใบ จะอุดรูหายใจแมลงโดยที่แมลงไม่สามารถสร้างภูมิต้านทานได้
4. พ่นสารชีวภัณฑ์ บิวเวอเรีย สารสกัดสะเดา
5. พ่นสารเคมีที่ใช้ป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ
8.ทำไมเพลี้ยไฟถึงมีความต้านทานต่อสารเคมี
สาเหตุของการดื้อยาในเพลี้ยไฟ
มีกลไกหลายประการที่ช่วยให้เพลี้ยไฟต้านทานต่อสารเคมี ดังนี้:
1. การกลายพันธุ์
- เพลี้ยไฟมีอัตราการกลายพันธุ์สูง
- การกลายพันธุ์บางชนิดทำให้เพลี้ยไฟมีความต้านทานต่อสารเคมีบางชนิด
- การใช้สารเคมีชนิดเดียวซ้ำๆ เป็นเวลานาน เพิ่มโอกาสให้เกิดการกลายพันธุ์
2. การกลายพันธุ์หลายตำแหน่ง
- เพลี้ยไฟบางตัวมีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งในยีนเป้าหมายของสารเคมี
- การกลายพันธุ์หลายตำแหน่งนี้ทำให้เพลี้ยไฟมีความต้านทานต่อสารเคมีหลายชนิดพร้อมกัน
3. เอนไซม์ดีท็อกซ์
- เพลี้ยไฟบางตัวผลิตเอนไซม์ดีท็อกซ์ที่สามารถย่อยสลายสารเคมีได้
- เอนไซม์ดีท็อกซ์เหล่านี้ช่วยให้เพลี้ยไฟสามารถทนต่อสารเคมีที่มีความเข้มข้นสูงได้
9.สามารถผสม มูฟ-เอ็กซ์ ในการป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟกับอะไรได้บ้าง เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
1.พ่นบิวเวอเรีย
2.สารเคมีที่ใช้ป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ ดังนี้
✓ ไวต์ออย ปิโตรเลียมออย
✓ กลุ่ม 5 สไปนีโทแรม
✓ กลุ่ม 2 เช่น ฟิโพรนิล อีทิโพรล
✓ กลุ่ม 4 เช่น อิมิดาโคลพริด โคลไทอะนิดิน ไทอะมีทอกแซม อะซีทา มิพริด ไดโนทีฟูแรน ซัลฟอกซาฟลอร์
✓ กลุ่ม 6 อะบาเมกติน
✓ กลุ่มอื่นๆ กลุ่ม 1 พิริมิฟอสเมทิล ไดอะซินอน โพรไทโอฟอส มาลาไทออน
✓ กลุ่ม13 คลอร์ฟีนาเพอร์
✓ กลุ่ม 15 โนวาลูรอน ลูเฟนนูรอน
✓ กลุ่ม 23 สไปโรมีไซเฟน สไปโรเตตระแมต
✓ กลุ่ม 28 ไซแอนทรานิลิโพรล
หมายเหตุ : พ่นสาร 2-3 ครั้ง เปลี่ยนกลุ่มสารเมื่อครบรอบ 15 วัน
16 กรกฎาคม 2567
ผู้ชม 224 ครั้ง