ระวัง โรคแอนแทรคโนส (เชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides) ในสตรอว์เบอร์รี่
ระวัง โรคแอนแทรคโนส (เชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides) ในสตรอว์เบอร์รี่
หมวดหมู่: บทความชีวภัณฑ์

ระวัง โรคแอนแทรคโนส (เชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides)
ในสตรอว์เบอร์รี่
อาการบนก้านใบ และลำต้น พบแผลสีม่วงแดงขนาดเล็ก ขยายลุกลามไปตามความยาวของก้านใบและลำต้น
> ต่อมาเปลี่ยนเป็นแผลสีน้ำตาล เนื้อเยื่อบริเวณแผลแห้ง ทำให้เกิดรอยคอด หากอาการรุนแรง ต้นจะเหี่ยว และตายในที่สุด
อาการบนผล แผลมีลักษณะฉ่ำน้ำเป็นสีน้ำตาลเข้ม เนื้อเยื่อรอบขอบแผลเปลี่ยนเป็นสีซีด แผลยุบตัวลง
> เมื่ออาการรุนแรงมากขึ้นจะขยายใหญ่และทำให้ผลเน่า ในสภาพที่มีอากาศชื้นอาจพบกลุ่มสปอร์สีส้มของเชื้อราสาเหตุโรคที่บริเวณแผล อาการบนไหล พบแผลสีม่วงแดงขนาดเล็ก ขยายลุกลามไปตามความยาวของสายไหล และเปลี่ยนเป็นแผลสีน้ำตาลในเวลาต่อมา ทำให้เกิดรอยคอดของไหลบริเวณที่เป็นแผล

แนวทางป้องกัน/แก้ไข
1. หมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบส่วนเป็นโรค เก็บนำไปทำลายนอกแปลงปลูก เพื่อลดปริมาณเชื้อสาเหตุโรค
2. ระยะเตรียมกล้า-ย้ายกล้าลงปลูก ใช้ ไตร-แท๊บ (ไตรโคเดอร์มา แอสเพอร์เรียลลัม สายพันธุ์ เอ็นเอสที-009) ผสมวัสดุเพาะกล้าอัตรา 1 กิโลกรัมต่อวัสดุปลูก 100-500 กิโลกรัม
หรือใช้ ไตร-แท๊บ (ไตรโคเดอร์มา แอสเพอร์เรียลลัม สายพันธุ์ เอ็นเอสที-009) อัตรา 1 กิโลกรัมผสมปุ๋ยคอกปุ๋ยหมัก 100-500 กิโลกรัม รองก้นหลุม หว่านโคนต้น อัตรา 50-100 กรัม ต่อต้น
3. ระยะการเจริญเติบโต-เก็บเกี่ยว ใช้ ไตร-แท๊บ ฉีดพ่นลงดินไปกับระบบน้ำ อัตรา 100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 7-10 วัน และใช้ เจน-แบค (บาซิลลัส ซับทิลิส สายพันธุ์ บีเอ็ม-01) พ่นให้ทั่วลำต้นและทรงพุ่ม ก่อนการระบาด อัตรา100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุก 7-10 วัน และเมื่อเริ่มพบการระบาด พ่นทุก 5-7 วัน เพื่อลดปริมาณของเชื้อในแปลงลง โดยในระยะนี้ควรให้น้ำน้อยลง

ขอบคุณข้อมูล:
สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร
14 กุมภาพันธ์ 2568
ผู้ชม 59 ครั้ง