จัดการหนอนบุ้งอย่างไรโดยไม่ใช้สารเคมี ?
จัดการหนอนบุ้งอย่างไรโดยไม่ใช้สารเคมี ?
วิธีกำจัดหนอนบุ้ง ปกป้องสวนพืชโดยไม่ใช้สารเคมี
หนอนบุ้ง เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเกษตรกรและคนสวน เพราะชอบกัดกิน ต้น และใบของพืชผักผลไม้ ทำให้เสียหายและสูญเสียผลผลิต การใช้สารเคมีกำจัดหนอนบุ้งนั้น แม้จะสะดวกและรวดเร็ว แต่ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ดังนั้นวิธีกำจัดหนอนบุ้ง ที่ตามลำตัวจะมีขนคันโดยไม่ใช้สารเคมีจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและยั่งยืน
รู้จักเชื้อบีที (Bt) กำจัดหนอนบุ้งที่มีความปลอดภัยต่อพืช
ในธรรมชาติมีหนอนบุ้งหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีลักษณะ รูปร่าง และพฤติกรรมการกินที่แตกต่างกัน หนอนบุ้งเหล่านี้สามารถเข้าทำลายพืชได้หลากหลายชนิด ตั้งแต่ไม้ผล ไม้ดอกไม้ประดับ ไปจนถึงพืชไร่ จึงต้องมีการจัดการเพื่อไม่ให้สร้างความเสียหาย ซึ่งการใช้สารเคมีกำจัดหนอนบุ้ง แม้จะสะดวกและรวดเร็ว แต่ก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว จึงมีอีกวิธีที่ไม่ใช้สารเคมี โดยเกษตรกรสามารถใช้เชื้อบีที (Bt)ในการกำจัดได้
เชื้อบีที (Bt) คือ เชื้อแบคทีเรีย Bacillus thuringiensis ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและจัดเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ สามารถนำมาใช้กำจัดแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด เนื่องจากมีความเฉพาะเจาะจงสูงในการทำลายเฉพาะแมลงเป้าหมายเท่านั้น ทำให้เชื้อบีทีเป็นจุลินทรีย์ที่มีความปลอดภัยสูง ช่วยป้องกันหนอนบุ้งไม่ให้ทำลายพืช โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เช่น ผึ้ง ตัวห้ำ และตัวเบียน
ลักษณะการทำลายของเชื้อบีที (Bt) ในการกำจัดแมลงศัตรูพืช
เชื้อบีที (Bt) จะกำจัดแมลงแตกต่างจากสารเคมี โดยสารเคมีส่วนใหญ่ฆ่าแมลงโดยตรง ทำให้แมลงตายทันที แต่เชื้อบีทีจะกำจัดแมลงเมื่อแมลงกินเชื้อบีทีเข้าไป
เมื่อตัวอ่อนของแมลงกินเชื้อบีทีเข้าไป สภาพความเป็นด่างในกระเพาะอาหาร ทำให้เซลล์แบคทีเรียแตกสลาย และน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของแมลง จะย่อยสลายผลึกโปรตีนและกระตุ้น ให้กลายเป็นสารพิษ (Toxin) โปรตีนสารพิษที่เข้าทำลายเซลล์เยื่อบุผนังกระเพาะอาหารของแมลง ทำให้เกิดรูรั่วบนผนังกระเพาะอาหาร ส่งผลให้การดูดซึมและการถ่ายเทแร่ธาตุอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าสู่เลือดของแมลงผิดปกติ กระเพาะอาหารของแมลงจะไม่สามารถทำงานได้และหยุดย่อยอาหาร ระบบเลือดจึงทำงานผิดปกติ ทำให้แมลงเป็นอัมพาตและหยุดกินอาหาร
สปอร์ของเชื้อบีทีในกระเพาะอาหารจะผ่านทางรูรั่วเข้าสู่เลือดของแมลง เชื้อจะเพิ่มปริมาณและแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ ทำให้แมลงเกิดอาการโลหิตเป็นพิษ และตายภายใน 1-3 วัน
วิธีการใช้ ทีเอบี บีทีเอ (เชื้อแบคทีเรีย บาซิลัส ทูริงเยนซิส)
วิธีกำจัดหนอนบุ้ง โดยการใช้ ทีเอบี บีทีเอ (เชื้อแบคทีเรีย บาซิลัส ทูริงเยนซิส)
- เชื้อบีที (Bt) จะออกฤทธิ์เมื่อหนอนกินเข้าไป จึงต้องพ่นเชื้อให้ทั่วถึงทุกส่วนของพืช
- การใช้เชื้อบีทีในระยะที่หนอนอ่อนแอหรือเพิ่งฟักจากไข่ จะได้ผลดีกว่าการใช้กับหนอนที่แข็งแรงหรืออายุมากแล้ว
- เมื่อพบการระบาดของหนอน ควรพ่นเชื้อบีทีตามอัตรา 80 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นติดต่อกัน 3 ครั้ง ทุก 3-4 วัน
- ปรับหัวฉีดเครื่องพ่นสารให้ละอองเล็กที่สุด เพื่อให้ละอองสารเกาะบนใบพืชได้ดี จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม หนอนบุ้งได้
- ควรฉีดพ่นในเวลาเช้าตรู่หรือเวลาเย็นเนื่องจาก ทีเอบี บีทีเอ เป็นสารชีวภัณฑ์ที่ประกอบด้วยเชื้อแบคทีเรียที่มีชีวิต การโดนแสงแดดจะทำให้ประสิทธิภาพของเชื้อลดลง
- ควรผสมสารจับใบทุกครั้ง อัตราตามคำแนะนำ
ข้อควรระวังในการใช้งาน
- เก็บเชื้อบีทีไว้ในที่แห้ง เย็น และพ้นแสงแดด
- สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากาก ถุงมือ เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว
- ล้างมือให้สะอาดหลังใช้
สำหรับเกษตรกรที่กำลังเจอปัญหาหนอนบุ้งบุกสวน มาเลือกใช้ตัวช่วยกำจัดบุ้งด้วยสารชีวภัณฑ์กำจัดหนอนในผัก เชื้อบีที (Bt) ชนิดกินตาย ทีเอบี บีทีเอ (TAB BTA) สายพันธุ์แกร่ง จาก TAB Innovation ที่มีประสิทธิภาพใช้กำจัดบุ้ง หนอนใยผัก หนอนกระทู้ผัก (หนอนรัง) หนอนกระทู้หอม (หนอนหนังเหนียว) หนอนกระทู้หลอดหอม หนอนเจาะสมอฝ้าย หนอนผีเสื้อ ในแปลงผัก สวนผลไม้ ที่ปลอดภัยต่อพืชและผู้ใช้ ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม หากสนใจสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ 02-954-3120-6 หรือ LINE ID : @TAB Innovation
เรียบเรียงโดย : ปรางค์นัดดา ประกอบนา
เอกสารอ้างอิง
ฉวีวรรณ หุตะเจริญ 2533. แมลงป่าไม้ของไทย. กรุงเทพฯ. 171 หน้า. กลุ่มแมลงศัตรูพืชป่าไม้. 2542. รายงานประจําปี 2542. กล่มแมลงศัตรูพืชป่าไม้ ส่วนวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมป่าไม้, สํานักวิชาการป่าไม้, กรมป่าไม้.
- Bailey and S. Higgs. 1993. Bacillus thuringiensis, and Environmental Biopesticide: Theory and Practice. 239-267
สอบถามข้อมูล/สั่งซื้อสินค้า
LINE id: @tabinnovation
โทร. 02-954-3120-6
29 สิงหาคม 2567
ผู้ชม 20512 ครั้ง