สารปรับสภาพดิน ปูนขาวชนิดน้ำ

หมวดหมู่: บทความชีวภัณฑ์

 

สารปรับสภาพดินด้วยปูนขาวชนิดน้ำ

ใช้ง่าย ประหยัด และคุ้มค่า มากกว่าปูนขาวชนิดผง

 

          การปลูกพืช ทำไร่ ทำสวน สภาพดินเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช เพราะถ้าดินมีค่าความเป็นกรดหรือด่าง ความอุดมสมบูรณ์ และธาตุอาหารที่เหมาะสม จะส่งผลให้ต้นพืชแข็งแรงสามารถเจริญเติบโตและให้ผลผลิตตามที่เราต้องการได้ แต่ถ้าดินมีสภาพเป็นกรดหรือด่างเกินไปก็จะส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของต้นพืชไม่ดีเท่าที่ควร ในการดึงเอาธาตุอาหารในดินที่จำเป็นไปใช้ได้น้อยลง และบางชนิดจะเปลี่ยนไปอยู่ในรูปที่พืชไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้หรือละลายออกมามากจนถึงระดับที่เป็นพิษต่อพืช  ทำให้ผลผลิตลดน้อยลง

ทำไมต้องปรับค่าความเป็นกรดหรือด่างดิน (พีเอช)

1.ค่าพีเอชดินเป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช ค่าพีเอชที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 5.5 - 7
2.ค่าพีเอชดินมีผลต่อการปลดปล่อยธาตุอาหาร อินทรียวัตถุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช หากดินเป็นกรดหรือด่างเกินไปพืชจะไม่สามารถดึงดูดธาตุอาหาร อินทรียวัตถุในดินไปใช้ได้
3.ค่าพีเอชดินมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัยของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน หากพีเอชดินเหมาะสมจะทำให้จุลินทรีย์ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตเชื้อรา แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคกับต้นพืช จะทำให้พืชแข็งแรง

 

          การปรับสภาพดินที่เป็นกรดหรือดินเปรี้ยวให้กลับมาเป็นกลางจะทำให้พืชสามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติเราสามารถใช้ ปูนขาว ที่เกษตรกรทั่วไปนิยมใช้จะเป็นรูปแบบของปูนขาวผง เช่น ปูนขาวไลม์ (lime) ปูนขาวโดโลไมท์ (dolomite) มีฤทธิ์เป็นด่าง จึงใช้ในการปรับสภาพดินที่เป็นกรดให้มีความเป็นด่างเพิ่มขึ้น

          การใช้ปูนขาวในรูปแบบผงก็สามารถใช้ปรับค่าพีเอชของดินได้ แต่มักจะมีข้อเสียดังนี้

1.ใช้ปริมาณมากต่อไร่ 2.ใช้เวลามากในการปรับสภาพดิน 3.การขนส่งและเคลื่อนย้ายเข้าสู่แปลงค่อนข้างยากและลำบาก  4.การใช้หว่านในพื้นที่เกิดการฟุ้งกระจายเป็นอันตรายต่อผู้ใช้

          ดังนั้นควรเลือกใช้ปูนขาวที่อยู่ในสภาพแขวนลอยหรือสามารถผสมน้ำฉีดพ่นลงดินได้จะทำให้ประหยัดคุ้มค่า และง่ายต่อการใช้งาน

          จัสเตอร์ เป็นสารปรับปรุงดินในรูปแคลเซียมคาร์บอเนตน้ำชนิดแขวนลอย ใช้ในการแก้ปัญหาดินกรดหรือดินเปรี้ยว

คุณสมบัติเด่นของจัสเตอร์

1.สารปรับปรุงดินชนิดแขวนลอย ผลิตจากแร่แคลไซต์ โดยนำมาผ่านกระบวนการบดและทำให้อยู่ในรูปของเหลวด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

2.มีความละเอียดสูง อนุภาคมีขนาดเล็กเพียง 0.5 ไมครอน ไม่อุดตันในระบบน้ำหยด

3.ลดปริมาณการใช้ปูนขาวแบบผงได้ถึง 100 เท่า

4.ไม่ต้องหว่านใช้งานง่าย เพียงแค่ผสมน้ำและฉีดพ่นลงแปลงปลูกหรือสามารถปล่อยไปกับระบบน้ำ หยดได้

5.ช่วยให้ธาตุอาหารที่ตกค้างอยู่ในชั้นดินมีการปล่อยออกมาเป็นประโยชน์ต่อพืชมากขึ้น

6.สามารถใช้ได้กับพืชทุกชนิด

 

ความละเอียดอนุภาคขนาดเล็กของจัสเตอร์มีผลอย่างไร

                อย่างที่ทราบกันว่าจัสเตอร์มีความละเอียดสูง อนุภาคมีขนาดเล็กเพียง 0.5 ไมครอน ขนาดของปูนมีผลต่อความเร็วในการทำปฏิกิริยากับดิน ปูนที่มีความละเอียดมากจะมีประสิทธิภาพสูง ปรับสภาพดินได้เร็ว
 ถ้าขนาดของปูนยิ่งเล็กจะยิ่งดี เพราะมีโอกาสที่จะสัมผัสกับดินได้มากขึ้น  ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้จัสเตอร์ในปริมาณมากเมื่อเปรียบเทียบกับปูนทั่วไปที่เกษตรกรใช้กัน

 

คำแนะนำการใช้จัสเตอร์

- เริ่มแรกต้องมีการวัดค่าความเป็นกรดด่างของดินก่อน หรือส่งตัวอย่างดินเพื่อตรวจวิเคราะห์

- ใช้ จัสเตอร์ ปรับสภาพพีเอชดินให้เป็นกลาง  ฉีดพ่นลงดิน

         อัตราการใช้ผสมน้ำ 80-100 ลิตร/ไร่

    pH ต่ำกว่า 4.5                        15 ลิตร/ไร่

    pH 4.5-5.5                             10 ลิตร/ไร่

    pH 5.6-6.5                               5 ลิตร/ไร่

หากไม่ทราบค่า pH แนะนำใช้จัสเตอร์ในอัตรา 5 ลิตร/ไร่
(ไม่ควรผสมกับสารกำจัดวัชพืชหากมีการใช้สารกำจัดวัชพืช
) ควรเว้นระยะเวลา 2 สัปดาห์

 

04 มิถุนายน 2567

ผู้ชม 2208 ครั้ง

Engine by shopup.com